แม่อั้ม อธิชาติ พูดถึงลูกชาย หลังเลิก นัท มีเรีย ต้องเก็บซ่อนความรู้สึก รู้ลูกไม่ค่อยพูดไม่ค่อยเล่ากลัวแม่ไม่สบายใจ
อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ พระเอกดัง เปิดใจครั้งแรกในรายการคุยแซ่บ Show หลังข่าวคราวการเลิกลากับนัท มีเรีย เป็นนักร้องและนักแสดง ความสัมพันธ์ที่ยาวนาน 15 ปี ซึ่งยืนยันว่าได้ยุติความสัมพันธ์สามีภรรยาแล้ว โดยไม่มีมือที่สาม ด้านคุณแม่อั้มเองก็ได้ออกมาเผยอีกมุมของลูกชายที่ไม่มีใครรู้หลังเลิกรากับ นัท มีเรีย
คุณแม่เข้าโรงพยาบาลหลายรอบเลยเพราะกรดไหลย้อนคุณแม่เป็นมานานหรือยัง?
คุณแม่ : เป็นมาเกือบ 10 ปีแล้ว
อั้ม : คุณแม่เป็นคนเอ็นจอยกับการทานมากๆ แล้ววันนึงไปปฎิบัติธรรมที่นครสวรรค์วันนั้นโทรมาแล้วบอกหายใจไม่ออก อารมณ์เหมือนจะไปแล้วและให้เราพยามพาไปหาคุณหมอ คุณหมอก็ตรวจบอกว่าเป็นกรดไหลย้อน หลังจากนั้นคุณแม่ก็ควบคุมอาหารมาโดยตลอด มาดูแลตัวเอง สิ่งที่คุณหมอบอกคือต้องควบคุมอาหารห้ามเครียดต้องออกกำลังกายให้เลือดไหลเวียน
คุณแม่ : แม่ชอบกินข้าวเยอะๆ แค่ข้าวกับน้ำปลาก็อร่อยแล้ว ตอนนี้ก็พยามควบคุมอาหารอย่างที่คุณหมอแนะนำ
อั้ม : พอเราทราบอาการคุณแม่มาห้าหกปี พอเราได้เรียนรู้ เวลากดมันขึ้นมาเราแยกไม่ออกว่าเป็นกรดหรือเป็นโรคหัวใจ เพราะฉะนั้นเวลาเกิดขึ้นตอนนั้นทานอาหารแล้วมือสั่นหน้าเริ่มซีดเราก็สงสัยว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร ก็ได้มีการตรวจเอกซเรย์ขึ้นหัวใจ ก็เลยต้องพาไปนอนโรงพยาบาล
สาเหตุหลักๆ มาจากความเครียดด้วย เห็นจากการคอมเมนต์หรือเปล่า?
คุณแม่ : ปกติคุณแม่ไม่ค่อยอ่าน ลูกก็บอกคุณแม่อย่าอ่านเนาะเค้าเป็นห่วง จุกและเครียดเห็นคอมเมนต์อ่านแล้วร้องไห้
อั้ม : ก็พยามพาคุณแม่ออกกำลังกายทำสวน ก็บอกเค้าอย่าอ่าน
ก่อนหน้านี้คุณแม่มีอาการกำเริบเกือบเสียชีวิตสองครั้ง?
อั้ม : คือตอนนั้นคุณแม่คุณแม่ก็ใจเสีย เพราะกลัวว่าจะไปหรือเปล่าเพราะเค้าอายุมากแล้ว
คุณแม่ : ลูกคือห้ามเยอะมากของทอดขนมเค้กปาท่องโก๋
อั้ม : คือเราให้กินแต่พอดีแต่มันไม่พอดีไง ก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่หายใจไม่ออก แน่นก็เลยต้องพาไปหาหมอฉีดยาเข้าเส้น ตอนแรกเราไม่เคยเป็นเพราะไม่เข้าใจอาการ พอพาไปหาคุณหมอ แล้วคุณหมอบอกว่ามันไม่ใช่เล่นเล่นนะ นี่คือก็เลยรีบจัดการทันที เพราะหายใจเฮือกๆ ตลอดเวลา
คุณแม่ : แล้วผู้เฒ่าผู้แก่แบบแม่ก็มีอาการแบบนี้แต่เค้าจะไม่ทราบว่าเป็นกรดไหลย้อน เค้าจะสับสนว่าเป็นโรคกรดไหลย้อนหัวใจ บางคนต้องไปเปลี่ยนเส้นบายพาสหัวใจ
คุณแม่ดื้อมั้ย?
คุณแม่ : ดื้อ ลูกก็ดื้อ
อั้ม : ด้วยความที่แม่เลี้ยงตอนเด็กๆ คนคิดว่าเป็นตุ๊ดหรือเปล่า? เพราะเราเรียบร้อย เรามีความเก็บกดอยู่ในใจพอขึ้น ม. 4 อยากจะใช้ชีวิตแบบเพื่อนบ้านเตะบอล ก็มีผู้หญิงเข้ามาในโรงเรียน ก็ขอใช้ชีวิตของตัวเองแล้วตอนนั้นก็เกรดตกเลย
คุณแม่ : คือเค้าเป็นดื้อเงียบ ไม่พูด เราก็เคยถือไม้เรียวเพื่อจะไปตีเขาบนห้อง แต่ก็ต้องวางไม้เรียวแล้วก็ไปร้องไห้
อั้ม : ก่อนหน้านั้นคือทะเลาะกันมาตลอด แล้วก็จากวันนั้นก็มาคิดได้
คุณแม่ : วิธีจัดการก็คือแม่ก็ไม่ตอแย อยู่บ้านเดียวกันแต่เขียนจดหมายแล้วก็ใส่ในชั้นเสื้อผ้าให้เค้าอ่าน
อั้ม : ที่เราไม่พูดเพราะเราคิดว่าพูดไปแม่ก็ไม่เข้าใจ แรกๆ ก็เขียนแต่หลังๆ มาเริ่มพิมพ์เพราะว่ามี LINE
คุณแม่ : ซึ่งบางครั้งเค้าก็ตอบบางครั้งก็ไม่ตอบ
จริงๆ อั้มเข้าวงการเพราะคุณแม่ดัน?
อั้ม : อย่าเรียกว่าแม่ด่าแม่ถีบเลย ตอนนั้นคือเราไม่อยากเข้าวงการ ไม่ชอบการที่ไปแสดง เรารู้สึกว่ามันไม่จริงใจ ตอนนั้นไม่อยากเข้าวงการเป็นคนขี้อายมาก ตอนนั้นก็มีโมเดลมาถ่ายรูปตอนนั้นไปก็หน้าหงิกตลอด คือเราไม่ได้ไปด้วยความเต็มใจ เพราะถ่ายรูปประกวดเสร็จปุ๊บ เราก็ไม่อยากไปป่วย ไปถึงเสร็จปุ๊บแม่ก็ขึ้นไปแนะนำตัว ก็ไม่ได้ร้ายกับใคร เพราะเค้าประกาศช่วงท้ายว่ารางวัลที่หนึ่งจะเป็นรถยนต์หนึ่งคัน จากง่วงๆ เราก็เริ่ม มีความอยากได้ คือเราเข้าวงการคุณแม่ก็เตรียมให้หมด
คุณแม่เห็นอะไรในตัวเขาที่จะเข้ามาในเป็นพระเอก ?
คุณแม่ : ตอนนั้นก็คืออยากให้เค้าลอง คุณแม่พยายามตามสุดฤทธิ์ ระหว่างที่รอการถ่ายทำ เค้าก็พยามสะกิดให้เรากลับเถอะ ใจเขาไม่อยาก เมื่อก่อนคือต้องไปกับเขา สาเหตุที่ไปเพราะเขางอแงไม่อยากมากอง
เมื่อก่อนเป็นคุณแม่ที่ดูแลพี่อั้ม แต่ตอนนี้พี่อั้มมาดูแลคุณแม่แล้วมีวิธีการดูแลคุณแม่บ้าง?
อั้ม : จุดมุ่งหมายหลักๆคือการไหลเวียนข้างใน ถ้าเรานอนดี เจออากาศที่ดี ก็พยามบอกคุณแม่ เราก็พาคุณแม่ไปอาบแดดตอนเช้า ก็ดูแลคุณแม่ด้วยรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมด้วย
อีกเรื่องหนึ่งที่คุณแม่ตัดสินใจโกนผมบวชที่อินเดีย เพราะผ่านการตาย?
คุณแม่ : คือจริงๆ ผ่านการบวชมาสามครั้งแล้ว คืออั้มเป็นคนพาไปบวชที่อินเดีย บวชตรงประถมมาเทศนาอยู่ที่นั่น 9 วัน แล้วก็กลับมารักษาศเดินเท้าอยู่ที่จังหวัดสุพรรณให้ครบเดือน
เราเห็นเค้าแบบนี้เป็นยังไงบ้างแม่?
คุณแม่ : เค้าก็ซ่อนความรู้สึก
เค้ามีพูดอะไรกับแม่บ้างไหม ?
คุณแม่ : เค้าไม่ค่อยพูดเค้ารู้ว่าแม่เป็นยังไงไม่ค่อยพูดไม่ค่อยเล่า เพราะครั้งหนึ่งเราก็เคยน้อยใจลูกเวลาไปไหนทำไมถึงไม่ชวนแม่ไปไปวัดไปอะไรก็บ่นกับเขา ก็อยู่เป็นกำลังใจให้ลูกชายตลอดเวลา
อยากบอกอะไรกับคนที่ให้แฟนๆ ?
อั้ม : ขอบคุณทุกกำลังใจขอบคุณทุกความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นความความคิดเห็นที่ต่างกันก็ตาม เราเข้าใจทุกคนรักจึงเป็นแบบนั้นจึงเป็นสิ่ง แต่อยากให้ทุกคนเคารพในสิ่งที่เป็น การไปคอมเม้นต์บาดหมางเราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะเราตกลงกันแบบนี้