รู้หรือไม่? หมอแนะสังเกต 3 จุดบนร่างกาย ถ้า “สีไม่คล้ำ” แสดงว่าไตยังแข็งแรง ไม่ใช่แค่ใต้ตา-ริมฝีปาก
แค่เพียงมองดูลักษณะภายนอกบางประการ ก็สามารถช่วยให้เราทราบข้อมูลเกี่ยวกับ “สุขภาพไต” ได้มากขึ้น ดร.เจี๋ย หยู รองหัวหน้าภาควิชาภูมิคุ้มกันโรคไต โรงพยาบาลถงจี้ ประเทศจีน กล่าวว่า ไตมีบทบาทสำคัญหลายประการในร่างกายมนุษย์ เมื่อไตไม่แข็งแรง ฟังก์ชันต่างๆ เช่น การขับถ่าย การกรองเลือดและของเสีย การควบคุมความดันโลหิต รวมไปถึงการมีส่วนร่วมในกระบวนการเผาผลาญต่างๆ ก็จะได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอกของร่างกาย
ดังนั้น นอกจากลักษณะของปัสสาวะ หรือความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในบางจุดแล้ว เราก็ไม่ควรละเลยความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับลักษณะภายนอกของร่างกายเช่นกัน โดยหากพบว่า 3 จุดต่อไปนี้ในร่างกาย “ไม่ได้มีสีคล้ำผิดปกติ” ก็แสดงว่าไตยังคงแข็งแรงดีอยู่
1.บริเวณใต้ตา
คุณหมอเจี๋ยเตือนว่า บริเวณใต้ตาสะท้อนถึงสุขภาพไตได้หลายอย่าง เมื่อการทำงานของไตลดลง ความสามารถของไตในการกรองของเสียและควบคุมของเหลวจะลดลง ทำให้เกิดการสะสมของของเหลวและสารพิษที่ไม่สามารถกำจัดได้ทันเวลา ส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำและเปลี่ยนสีของผิวหนังใต้ตาได้ หากบริเวณใต้ตาไม่ได้มีสีคล้ำ และอาการบวมไม่ชัดเจนจนเกินไป อาจเป็นสัญญาณว่าไตยังทำงานได้ดี
2.ริมฝีปาก
สีของริมฝีปาก ถือเป็นกระจกที่สะท้อนสถานะเลือดและสุขภาพไตได้อย่างชัดเจน คนที่มีสุขภาพดีมักมีริมฝีปากที่อมชมพูและชุ่มชื่น แต่เมื่อไตอ่อนแอลงจะส่งผลต่อความสามารถในการกรองเลือดและการไหลเวียนของเลือด ทำให้ปริมาณออกซิเจนในร่างกายลดลง ส่งผลให้ริมฝีปากมีสีเข้มหรือเทา ไตไม่สามารถกำจัดสารพิษได้ทันท่วงที ทำให้เมลานินเพิ่มสูงขึ้น ริมฝีปากค่อยๆ คล้ำลง ดังนั้น หากริมฝีปากไม่ดำหรือมีจุดดำผิดปกติ แสดงว่าไตแข็งแรง
3.เล็บ
เล็บอยู่ที่ปลายแขนขา ห่างไกลจากหัวใจ และเคลื่อนไหวได้มาก จึงมักสะท้อนถึงภาวะสุขภาพของอวัยวะภายใน โดยเฉพาะไต เล็บของผู้ที่มีไตแข็งแรงมักมีสีอมชมพูสดใส เป็นมันเงาและยืดหยุ่นได้ ตามที่คุณหมอเจี๋ยกล่าวไว้ เมื่อการทำงานของไตลดลง กระบวนการควบคุมน้ำและแร่ธาตุในร่างกายจะได้รับผลกระทบ ในขณะเดียวกันกระบวนการกรองเลือดและกรองของเสียก็ถูกรบกวนไม่มากก็น้อย ส่งผลให้เล็บแห้งเปราะ ขาดความเงางาม และมีสีคล้ำได้
อย่างไรก็ดี แน่นอนว่าสัญญาณเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากปัญหาไตเสมอไป แต่อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่นๆ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ สิ่งสำคัญคือควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อตรวจร่างกายให้แน่ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการปัสสาวะผิดปกติ เหนื่อยล้า ปวดหลังร่วมด้วย