ชายแชร์ประสบการณ์ตรง “กินของ 4 อย่าง” จนเป็นมะเร็งลำไส้ระยะ 3 เตือนใครชอบแบบนี้ควรเลี่ยง!
ผู้ใช้ TikTok @songkran_weerapong ออกมาแชร์ประสบการณ์ตรงที่ทำให้หลายคนต้องสะเทือนใจ หลังเขาเผยว่า ตนเองป่วยเป็น มะเร็งลำไส้ระยะที่ 3 จากพฤติกรรมการกินอาหารที่เคยชินในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะ “ของ 4 อย่าง” ที่กินบ่อยเกินไปจนกลายเป็นสาเหตุหลักของโรคร้าย
4 สิ่งที่กินบ่อยจนกลายเป็นมะเร็งลำไส้
ชายรายนี้เล่าว่า ตนเป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 3 และกำลังอยู่ระหว่างการรักษา ก่อนหน้านี้มีพฤติกรรมการกินที่ดูเหมือนปกติ แต่เมื่อมองย้อนกลับไป เขาพบว่านั่นคือ “ต้นเหตุ” ของมะเร็งในลำไส้ที่เกิดขึ้น
1.อาหารเก่าที่แช่ตู้เย็น ชายรายนี้เผยว่า มักกินอาหารที่เก็บไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานาน หรืออาหารที่เหลือจากมื้อก่อน โดยนำมาอุ่นซ้ำ ซึ่งอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ผักและผลไม้ที่ไม่สะอาด หรือผลไม้ที่เปลือกมีเชื้อรา ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรระวัง เพราะเชื้อราอาจแทรกซึมเข้าไปถึงเนื้อด้านใน
2.เนื้อไม่สุกและของทอดใช้น้ำมันซ้ำ อาหารปิ้งย่างและของทอดที่ใช้น้ำมันซ้ำบ่อย ๆ เป็นสิ่งที่เขาชอบกินมาก แต่สารก่อมะเร็งจากการเผาไหม้และการใช้น้ำมันเก่าซ้ำ ๆ อาจสะสมในร่างกายจนกลายเป็นอันตรายต่อระบบลำไส้
3.อาหารแปรรูปและน้ำอัดลม อีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าตัว “กินบ่อย” คืออาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน ลูกชิ้น รวมถึงน้ำอัดลม ซึ่งมีสารกันเสียและโซเดียมในปริมาณสูง หากรับประทานเป็นประจำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ได้
4.แอลกอฮอล์ เขายังยอมรับว่า ชอบดื่มเบียร์และไวน์เป็นประจำโดยไม่รู้ว่าแอลกอฮอล์สามารถทำลายเยื่อบุผนังลำไส้ และเพิ่มการอักเสบ ซึ่งเมื่อรวมกับเชื้อโรคในลำไส้ จะยิ่งกระตุ้นให้เซลล์กลายพันธุ์จนเกิดเป็นมะเร็ง
คำเตือนจากผู้ป่วยจริง
ชายรายนี้ฝากเตือนว่า “ไม่จำเป็นต้องงดทุกอย่าง แต่ขอแค่กินให้น้อยลง และอย่ากินติดต่อกันเป็นเวลานาน” เพราะพฤติกรรมเล็กๆ ที่ดูไม่อันตราย อาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายได้โดยไม่รู้ตัว