หลายคนเชื่อว่าเมื่อร่างกายมีไข้ อุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติ หากรับประทาน “ไข่ไก่” อาจทำให้ไข้สูงขึ้นเร็วกว่าเดิม อาการแย่ลง และหายจากโรคช้ากว่าเดิม แล้วความเชื่อนี้ถูกต้องหรือไม่?
Dr.Nguyễn Anh Duy Tùng แพทย์จากระบบคลินิกโภชนาการ ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า “ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง ไข้เกิดจากกระบวนการปรับอุณหภูมิของร่างกายที่ผิดปกติ เมื่อร่างกายหายจากโรค อุณหภูมิร่างกายก็จะกลับสู่ภาวะปกติ และการกินไข่ไม่ได้ทำให้ร่างกายหายจากโรคช้ากว่าเดิม”
ไข่ไก่และไข่ชนิดอื่นๆ มีโปรตีน ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินกลุ่ม B, D, แคลเซียม และสังกะสี ซึ่งดีต่อสุขภาพรวมทั้งไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น โอเมกา-3 ยังช่วยพัฒนาสมองและเพิ่มความจำของเด็กเล็ก การกินไข่ไก่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยต้านทานโรค
ทั้งนี้ สำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี สามารถกินไข่ไก่ได้วันละ 1 ฟอง แต่ควรกินประมาณ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์จะดีกว่า และสำหรับเด็กๆ ควรกินไข่ตามปริมาณที่เหมาะสมตามช่วงอายุ
เช่น เด็กอายุ 6-7 เดือน ควรกินไข่แดงครึ่งฟองในมื้ออาหาร 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ , เด็กอายุ 8-12 เดือน สามารถกินไข่แดง 1 ฟองในมื้ออาหาร 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ , เด็กอายุ 1-2 ปี ควรกินไข่ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์ โดยกินทั้งไข่ขาวและไข่แดง ส่วนเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป สามารถกินไข่ได้วันละ 1 ฟอง
ส่วนข้อควรระวังในการกินไข่ เนื่องจากไข่มีไขมันสูง หากกินมากเกินไปอาจทำให้เด็กมีอาการท้องอืด ย่อยยาก หรือมีปัญหาทางเดินอาหาร และหากเด็กมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ควรจำกัดการกินไข่ไก่ เพราะมีคอเลสเตอรอลและไขมันสูง
ผู้ที่เป็นโรคตับ ควรกินไข่ไม่เกิน 2-3 ฟองต่อสัปดาห์ เนื่องจากไข่ไก่มีคอเลสเตอรอลสูง (ประมาณ 200 มก.) ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพตับ วิธีการกินไข่ที่ดีที่สุดคือการกินในปริมาณที่พอเหมาะ และทานร่วมกับผักผลไม้เพื่อความสมดุลในอาหาร
นอกจากนี้ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและให้หายจากโรคเร็วขึ้น ผู้ป่วยควรกินอาหารที่หลากหลายและมีความสมดุล ทานอาหารที่เสริมภูมิคุ้มกัน อาทิเช่น ปลา ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่หรือส้ม เสริมในเมนูอาหารประจำวัน และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอพร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการนอนดึกด้วย