Saturday, 28 December 2024

เปิดสถานที่เสี่ยง “โนโรไวรัส” หลังระบาดในไทยแล้ว ป่ วยรวม 1,436 ราย

กรมอนามัย เปิดสถานที่เสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อ “โนโรไวรัส” (Norovirus) หลังระบาดในไทยแล้ว ป่ วยรวม 1,436 ราย

ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเ ชื้อไวรัส “โนโรไวรัส” (Norovirus) ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2567 นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย ได้เปิดเผยถึงชการระบาดของโนโรไวรัส ที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วง ของนักเรียน ครู และบุคลากร 2 โรงเรียน ในอำเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยพบผู้ป่วยรวม 1,436 ราย เป็นนักเรียน 1,418 ราย ครูและบุคลากร 18 ราย อันเกิดจากการติดเชื้อโนโรไวรัสที่ปนเปื้อนมากับ “น้ำและน้ำแข็ง” ที่บริโภคในช่วงสัปดาห์ของการจัดกิจกรรมกีฬาสี

เปิดรูปภาพ

โดย โนโรไวรัส มักจะแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กที่มีภูมิต้านทานน้อยกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว พบบ่อยตามโรงเรียน ภัตตาคาร โรงพยาบาล สถานที่เลี้ยงเด็ก รวมไปถึงรถหรือเรือท่องเที่ยว

โนไวรัสเป็นโรคติดต่อจากคนสู่คน สามารถติดต่อได้ง่าย จากการสัมผัสทางอาหาร น้ำดื่ม อากาศ การสัมผัส และการหายใจ เช่น การสัมผัสผู้ป่วยที่ติดเชื้อโนโรไวรัสโดยตรง การสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโนโรไวรัส รวมถึงสภาพแวดล้อมไม่ถูกหลักสุขาภิบาล โดยโนโรไวรัสมีระยะฟักตัวสั้น 12-48 ชั่วโมงหลังการรับเชื้อ

เปิดรูปภาพ

อาการที่พบส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ปวดมวนท้อง ท้องเสีย มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะและปวดเมื่อยตามร่างกาย

เปิดรูปภาพ
อาการรุนแรงในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ บางรายอาจทำให้มีอาการขาดน้ำ จึงควรดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อทดแทนการเสียน้ำและเกลือแร่

มาตรการป้องกันตนเองจากโรโนไวรัสตามคำแนะนำ มีดังนี้

รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง
ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด
ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ก่อนและหลังทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
หลีกเลี่ยงดื่มน้ำที่ไม่สะอาด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำที่ไม่สะอาด

เปิดรูปภาพ

หน่วยงานและสถานประกอบกิจการควรมีมาตรการควบคุมป้องกัน ดังนี้

การเติมคลอรีนในถังพักน้ำดื่มและน้ำใช้
การตรวจประเมินคุณภาพน้ำใช้ น้ำดื่มอย่างต่อเนื่อง
จัดให้มีจุดล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ที่เพียงพอ
การให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพและส่งเสริมพฤติกรรมอนามัยส่วนบุคคลที่ดีสำหรับการป้องกันโรค