เรื่องนี้มีที่มาจาก เว็บไซต์ต่างประเทศ ETtoday ของไต้หวัน ได้มีการรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่งได้แชร์เรื่องราวจากเพื่อนของเขา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำงานอยู่ที่โรงแรมม่านรูด โดยเพื่อนของเขารายนี้ได้เผยความบเบื้องหลังการทำงานที่โรงแรมม่านรูดว่า เวลาไหนที่ห้องพักจะเต็มมากที่สุด ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่รับความสนใจและเกิดการถกเถียงอย่างดุเดือดบนโลกออนไลน์
โดยเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกแชร์ผ่านทางแพลตฟอร์ม Threads เล่าว่า เพื่อนของเขาเผยว่า ช่วงที่ห้องพักเต็มมากที่สุด ไม่ใช่ช่วงบ่าย แต่เป็นช่วงเช้าตรู่ และแขกส่วนใหญ่ที่มานั้น มักจะเป็นคนที่นอกใจคนรัก โดยจะอ้างกับคนที่บ้านว่า ออกมาทำงานในช่วงเวลานั้น แต่ความจริงแล้วแอบมาเล่นชู้ที่โรงแรมม่านรูด
ซึ่งหลังจากที่เรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปได้ไม่นาน ชาวเน็ตหลายคนก็พากันเข้าไปแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันว่า ขณะทำงานที่โรงแรม การพบเห็นเรื่องชู้สาวเป็นเรื่องที่เจอได้ง่ายดายมาก, ไม่ใช่แค่โรงแรมม่านรูดนะ แต่ยังรวมไปถึงที่นัดคุยธุรกิจที่มีห้องให้พัก ก็มีเรื่องชู้สาวเกิดขึ้นเป็นประจำอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตรายหนึ่งเล่าว่า แม่ของฉันเคยทำงานที่เคาน์เตอร์โรงแรม และมักจะเจอแขกคนหนึ่งพาคน 2 คน มาเข้าพักในคนละช่วงเวลาที่ต่างกัน คือตอนเช้าและตอนเย็น เท่านั้นยังไม่พอ ได้มีเจ้าของธุรกิจมาเผยว่า ธุรกิจของเรามักไปได้สวยในวันที่มีพายุ แขกส่วนใหญ่จะมาเข้าพักกับชู้ โดยอ้างกับคนรักว่า วันนี้หยุดงานไม่ได้ ทั้งที่ความจริงไม่ได้ไปทำงาน
อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตรายหนึ่งมาร่วมแชร์ประสบการณ์เชิงลึกเผยว่า เขาเคยทำงานที่โรงแรมม่านรูด 3 ปี การนอกใจมักเกิดขึ้นในช่วงเช้าและช่วงเย็น โดยช่วงเช้าตรู่คือตั้งแต่ 05.00 – 07.00 น. ก่อนเวลาเข้าทำงาน หลังจากเสร็จภาจกิจก็พากันเช็กเอาต์แยกย้ายไปทำงาน ช่วงนี้ส่วนใหญ่จะบอกที่บ้านว่าต้องออกแต่เช้าไปเคลียร์งาน มีประชุม หรือกลัวรถติด
ส่วนในช่วงเย็นเวลา 17.00-19.00 น. หลังเวลาเลิกงาน ช่วงนี้ส่วนใหญ่จะโกหกที่บ้านว่า ทำงานล่วงเวลาหรือรถติด และอีกช่วงเวลาคือตอน 22.00 น. ช่วงนี้จะใช้เวลาทำภารกิจแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งจะโกหกที่บ้านว่า ออกมาดื่มหรือมาคุยกับเพื่อน